====================================
ความหมายของอินเทอร์เน็ตและประวัติของอินเตอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต (Internet) คือเครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน มาจากคาว่า
Inter Connection Network เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
ทั่วโลก สามารถติดต่อสื่อสารถึงกัน ได้โดยใช้มาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว หรือที่เรียกว่า
โปรโตคอล (Protocol) ซึ่งโปรโตคอล ที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีชื่อว่า ทีซีพี/ไอพี ( TCP/IP :
Transmission Control Protocol/Internet Protocol )
ลักษณะของระบบอินเทอร์เน็ต เป็นเสมือนใยแมงมุม ที่ครอบคลุมทั่วโลก ในแต่ละจุดที่เชื่อมต่อ
อินเทอร์เน็ตนั้น สามารถสื่อสารกันได้หลายเส้นทาง ตามความต้องการ โดยไม่กาหนดตายตัว และไม่
จาเป็นต้องไปตามเส้นทางโดยตรง อาจจะผ่านจุดอื่น ๆ หรือ เลือกไปเส้นทางอื่นได้หลาย ๆ เส้นทาง
การติดต่อสื่อสาร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นั้นอาจเรียกว่า การติดต่อสื่อสารแบบไร้มิติ หรือ Cyberspace
คำเกี่ยวข้องที่ควรทราบ
Cyberspace (ไซเบอร์สเปซ) เป็นคำที่ William Gibson นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ เป็นผู้บัญญัติ เพื่อใช้ในเรื่องที่แต่ง ปัจจุบันหมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์หลายเครือข่าย ที่แยกกัน แต่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ แม้จะใช้กฎเกณฑ์ หรือมาตรฐาน ที่แตกต่างกันก็ตาม ดังนั้น Internet เป็นเพียงเครือข่ายหนึ่งของ Cyberspace เท่านั้น
Information Superhighway (อินฟอร์เมชั่น ซุปเปอร์ไฮเวย์) หรือทางด่วนข้อมูล เป็นโครงสร้างของระบบโทรคมนาคมพื้นฐาน (Infrastructure) ในการรับส่งข้อมูลดิจิทอล ที่มีความเร็วสูง เชื่อถือได้ มีความปลอดภัย Internet เป็นเพียงต้นแบบหนึ่งของ I-Way นี้เช่นกัน
ความสาคัญของอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต มีความสาคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเรา หลายๆ ด้าน ทั้งการศึกษา พาณิชย์ ด้านธุรกิจดังนี้
1. ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญ ดังนี้
1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ
เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ
เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญดังนี้
1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2. สามารถซื้อขายสินค้า ทำธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย
3. เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
4. ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)
1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2. สามารถซื้อขายสินค้า ทำธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย
3. เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
4. ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)
3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญดังนี้
1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป
2. สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้
ความรู้เกี่ยวกับ Web browser (เว็บเบราว์เซอร์) ===================================
W
|
eb browser คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลเและติดต่อสื่อ
สารกับระบบสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบของเว็บเพจ
ซึ่งอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า World Wide Web (WWW)
Web browser คือ
“โปรแกรม ที่ใช้สำหรับท่องอินเทอร์เน็ต
(surfing the Internet) คือใช้ในการเปิด web page และอย่างอื่นอีกมาก” สรุปก็คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูลที่อยู่ในหน้าเว็บเพจ
“โปรแกรมที่ใช้สำหรับเป็นประตูเปิดเข้าสู่โลก
WWW (World Wide Web) หรือพูดกันอย่างง่ายก็คือโปรแกรมที่ใช้สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ตที่เรานิยมใช้กันอยู่ทุกวันนี้
โดยเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser)
จะเข้าใจในภาษาHTML นี้คือเหตุผลว่าทำไมต้องใช้ภาษา HTML ในการสร้างเว็บเพจ เพราะโปรแกรม
เว็บเบราว์เซอร์นั่นสามารถเข้าใจ และสามารถทำงานตามคำสั่งของภาษา HTMLได้” http://www.nongbuaschool.ac.th/index.html
จะเข้าใจในภาษาHTML นี้คือเหตุผลว่าทำไมต้องใช้ภาษา HTML ในการสร้างเว็บเพจ เพราะโปรแกรม
เว็บเบราว์เซอร์นั่นสามารถเข้าใจ และสามารถทำงานตามคำสั่งของภาษา HTMLได้” http://www.nongbuaschool.ac.th/index.html
“โปรแกรม คอมพิวเตอร์
ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเว็บที่
สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่นๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ” http://www.google.co.th
สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่นๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ” http://www.google.co.th
อย่างไรก็ตาม จากนิยามหรือความหมายของ Web
browser มี 2 ประเด็นที่หลายๆ คนอาจจะยังสงสัยและอาจเป็นสาเหตุให้ตีความหรือเข้าใจว่า
Web browser คืออะไร แตกต่างหรือคลาดเคลื่อนกันไป
คือ การใช้คำ “สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ต” ที่อาจจะทำให้หลายๆ คนเข้าใจได้ว่า อินเทอร์เน็ต ก็คือ WWW (World Wide Web) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะคำว่า WWW เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายกว้างขวางกว่า และยังรวมเอาการใช้งานหรือหรือบริการอื่นๆ นอกจาก WWW เอาไว้ด้วย เช่น อีเมล์ (e-mail) แชท (Chat) IRC และ FTP เป็นต้น
คือ การใช้คำ “สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ต” ที่อาจจะทำให้หลายๆ คนเข้าใจได้ว่า อินเทอร์เน็ต ก็คือ WWW (World Wide Web) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะคำว่า WWW เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายกว้างขวางกว่า และยังรวมเอาการใช้งานหรือหรือบริการอื่นๆ นอกจาก WWW เอาไว้ด้วย เช่น อีเมล์ (e-mail) แชท (Chat) IRC และ FTP เป็นต้น
Web browser คืออะไร
ความหมายโดยสรุปสั้นๆ
จากนิยามของ Web
browser ที่ผมได้ให้ตามความเข้าใจข้างต้น
และจากการค้นหาและอ่านจากเว็บอื่น ๆ ผมขอสรุปและให้นิยาม Web browser คืออะไร ดังนี้
Web browser คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลและติดต่อสื่อ
สารกับระบบสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบของเว็บเพจ ซึ่งอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า
World Wide Web (WWW)
Web browser มีอะไรบ้าง
คือ หลาย ๆ คนที่เล่นเน็ทเป็นเปิดเว็บไซท์เป็นคงจะรู้จักกับคำว่าเว็บบราวเซอร์ หรือโปรแกรมท่องเว็บ ส่วนใหญ่แล้วเราคงจะรู้จักกันแต่ Internet Explorer
ของ Microsoft จอมผูกขาด คุณรู้หรือเปล่าว่า IE ที่คุณใช้อยู่นั้น ณ เวลาปัจจุบันมันไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย เพราะว่าทางทีมงานเค้าไม่ได้พัฒนามานานแล้ว ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องถามหา ซึ่ง Firefox นั้นเป็นอินเทอร์เน็ตบราวเซอร์ตัวใหม่ที่จะเข้ามาแข่งกับ IE < Internet Explorer> นำทีมสร้างโดย Mozilla โดยมีนักพัฒนาต่อยอดอยู่ทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติของ Firefox ที่เด่นกว่า IE คือ โปรแกรมมีขนาดเล็กกว่าทำให้การโหลดข้อมูล ทางหน้าเว็บเพจทำได้รวดเร็ว ใช้งานได้สะดวก แท็บด้านบนทำให้ทำให้เข้าได้หลายเว็บไซด์พร้อม ๆ กัน
โดยไม่ต้องเปิด window ใหม่ อีกทั้งยังมีการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องอินเทอร์เน็ต เช่น เมนูของ Google สำหรับการค้นหาข้อมูล
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Firefox
เป็นโปรแกรม Free
Download ไม่ต้องตรวจสอบอะไร โหลดมาใช้ได้เลย
ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเล็ก
ใช้เวลาในการดาวโหลดไม่นาน
ไม่แฮงค์บ่อย ปลอดภัยจาก spy
ware ต่างๆ
แก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างรวดเร็ว
เพราะมีทีมงานพัฒนาอยู่ทั่วโลก มีการพัฒนาตลอดเวลา
สนับสนุนการใช้งานทั้ง Window
MAX OS และ Linux ด้วย
มีลูกเล่นต่างๆ มากมาย
ที่ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาและการใช้งานได้ตามความถนัดของผู้ใช้
ด้วย themes, extensions ต่างๆ มากมาย
ด้วย themes, extensions ต่างๆ มากมาย
2. Opera (โอเปร่า)
Opera ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี
2006 และการจัดตั้ง บริษัท ย่อยของจีน R & D ทีมนี้เป็นไอทีและโทรคมนาคมในประเทศจีน
CEO Interview กับ Opera และ Opera
Song Lin, ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของจีนวัง Lihao จำนวนน้อยยากที่จะจินตนาการ, ผูกขาด Microsoft
ในเขตเบราว์เซอร์หลายปีกลุ่มของ infidels"ที่จากโลกล่าสุดได้รับการต่อไปนี้ช่วงกลาง 90s จากเบราเซอร์นอร์เวย์
Opera นี้กับความจริงที่ว่าทนเงียบไป Microsoft เจ้าโลกผูกขาด IE เหล่านี้ไม่ยอมให้เผชิญหน้ากับความมืดเงียบที่ไม่เป็นจริงออกจากจุดประกาย
คนเหล่านี้เช่น"ผู้นำศาสนา Apple"นำโดย Steve
Jobs of Apple และแฟน Apple
ไม่ซ้ำกัน แต่ยังมีผลประโยชน์ ดังนั้นเบราเซอร์โอเปร่าที่มีชื่อเสียงที่รู้จักกัน Swiss Army Knife
ไม่ซ้ำกัน แต่ยังมีผลประโยชน์ ดังนั้นเบราเซอร์โอเปร่าที่มีชื่อเสียงที่รู้จักกัน Swiss Army Knife
จากข้อมูลของทาง Apple.com
ก็ได้กล่าวถึงโปรแกรม Safari ว่าเป็นโปรแกรมท่องเว็บไซต์ที่เร็วที่สุด
โดยเปรียบเทียบกับ Browser อื่น เช่น Firefox หรือ Internet Explorer แต่ก็เป็นข้อมูลจากทาง Apple.com
ซึ่งก็ขอให้ผู้อ่านฟังหูไว้หู อย่าเชื่อข้อมูลของทาง Apple.com
มากนัก และจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนใช้งานมาทั้ง Safari
Firefox และ Internet Explorer ในความรู้สึกส่วนตัวเห็นว่า
Safari เองเร็วกว่า Internet Explorer อย่างเห็นได้ชัด
แต่ต่างกับ Firefox เล็กน้อย โดยขั้นตอนการโหลดเว็บของ Safari
จะกระตุกสักครู่แล้วมาหมดทีเดียวทั้งหน้าเลย ต่างจาก Firefox
ที่จะมีกรอบเหลี่ยม ๆ ก่อนแล้วแต่ละส่วนค่อยๆ โหลดมา
ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเทคนิคการเขียนโปรแกรมนั้นแตกต่างกัน
4. Crazy Browser (เครซี่ เบราว์เซอร์)
คือ"หน้ากาก"ครอบ IE
ลงไปอีกทีหนึ่ง แล้วก็เพิ่มความสามารถต่างๆเข้ามา
เพื่อให้การใช้เข้าดูเว็บต่าง ๆ นั้น สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น เรามาดูคุณสมบัติคร่าว
ๆ ดังนี้
1.
ติดตั้งได้กับทุกวินโดวส์ ตั้งแต่ 95 จนถึง 2003 ข้อแม้อย่างเดียวคือ ต้องมี IE
อยู่ก่อนเท่านั้น
2.
บล็อคพวก Popup โฆษณาต่างๆได้
และยังสามารถเพิ่มรายชื่อได้เองอีกด้วย
3.
ในขณะที่ IE นั้น
การเปิดหน้าใหม่จากการคลิกลิ้งก์ต่างๆ จะแยกเปิดเป็นตัวๆ บางทีก็เกลื่อนจอ
แต่ตัวนี้จะเปิดหน้าใหม่ในลักษณะ Tab เหมือนๆกับโปรแกรม Excel
จึงเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่า
4.
สามารถตั้งค่าให้เปิดเป็นกลุ่มได้ เช่นคลิกครั้งเดียว เปิดหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับเลย
เป็นต้น
5.
เวลาเลิกใช้งาน สามารถล้าง URL ที่เราเคยพิมพ์เข้าไปได้โดยอัตโนมัติ
6.
สมมติว่าเปิดไว้ 20 เว็บพร้อมๆกัน สามารถยกถ้วยกาแฟพร้อมกับจับปาท่องโก๋ไว้อีกมือ ให้โปรแกรมเลื่อนไปให้ดูทีละเว็บๆแบบสไล้ด์โชว์
7.
สำหรับคนชอบอะไรสั้นๆ สามารถพิมพ์เฉพาะชื่อเว็บ เช่น pantip
แล้วกด Ctrl+Enter
8.
มีช่อง Search
ให้พิมพ์ค้นหาคำจากที่อื่นๆได้อีก
5. Maxthon Browser
(แมกซ์ทอน
เบราว์เซอร์)
Maxthon เป็นเบราว์เซอร์ถูกดาวน์โหลด
มากกว่า 463 ล้านครั้ง (ซึ่งสามารถดูได้จากหน้าเว็บของ Maxthon เลย) Maxthon (เดิมใช้ชื่อ MyIE2) เป็นเบราว์เชอร์ที่มีความแข็งเกร่ง มีพวกปลั๊กอินให้เราเลือกมากกว่า
1,400 ปลั๊กอินที่ทำให้เราสามารถใช้ Maxthon ได้อย่างสะดวกสบาย
และยังมีสกินที่สวย ๆ
ให้เราเลือกปรับแต่งใช้งาน Maxthon ให้สวยหรูได้อีกด้วย
ให้เราเลือกปรับแต่งใช้งาน Maxthon ให้สวยหรูได้อีกด้วย
6. Google chrome (กูเกิ้ล โครม)
7. Internet Explorer (อินเทอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเร่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น